ข่าวประชาสัมพันธ์

เริ่มแล้ว “เอสอาร์ทีฯ” เข้าบริหารทรัพย์สินรถไฟ

เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่า รฟท. และ น.ส.ไตรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล กรรมการบริษัท และรักษาการกรรมการผู้จัดการบริษัท เอสอาร์ที เเอสเสท จำกัด ได้ทำพิธีลงนามร่วมกันในบันทึกข้อตกลงการบริหารจัดการทรัพย์สินระหว่าง รฟท. กับ บริษัท เอสอาร์ที เเอสเสท จำกัด 

นายนิรุฒ เปิดเผยว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงฯ ครั้งนี้ ถือเป็นการปฏิรูปด้านการบริหารจัดการทรัพย์สินครั้งสำคัญของการ รฟท. และเป็นการดำเนินภารกิจตามมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 ก.ย.63 ที่เห็นชอบให้ รฟท. จัดตั้งบริษัทลูก บริษัทเอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ขึ้น เพื่อบริหารทรัพย์สินของ รฟท. ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยฟื้นฟู สร้างรายได้ให้แก่ รฟท.ตามแผนฟื้นฟูกิจการฯ ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ด้วย... อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/news/253640/

นายนิรุฒ กล่าวต่อว่า รฟท. ได้ดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด แล้วเสร็จไปเมื่อวันที่ 30 เม.ย.64 การลงนามความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการส่งมอบทรัพย์สินของ รฟท. ให้กับบริษัท เอสอาร์ทีฯ เป็นผู้ดูแลบริหารจัดการแทน อย่างไรก็ตามกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินทั้งหมดนั้น ยังคงเป็นของ รฟท. เช่นเดิม

โดยในช่วงแรก รฟท. จะเริ่มทยอยโอนทรัพย์สินโครงการขนาดใหญ่ที่มีการทำสัญญาไว้แล้ว 75 สัญญา มูลค่าทรัพย์สิน 1,645 ล้านบาท โดยใช้เวลาโอนเสร็จสิ้นภายในเวลา 2 เดือน ระหว่างเดือน ก.ย.-ต.ค.64 ซึ่งจะทำให้บริษัท เอสอาร์ทีฯ สามารถบริหารจัดการทรัพย์สินได้ทันที หลังจากนั้นจะมีการทยอยโอนส่งมอบทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายดำเนินการโอนทรัพย์สินทั้งหมด 12,839 สัญญา มูลค่า 3,166 ล้านบาท แล้วเสร็จภายในปี 65

นายนิรุฒ กล่าวอีกว่า บริษัท เอสอาร์ทีฯ จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยบริหารจัดการและสร้างรายได้ให้กับ รฟท. ทั้งด้านการบริหารสัญญาเช่าที่ได้รับมอบจาก รฟท. การจัดหาผู้ลงทุนและการเช่าพื้นที่เพื่อพัฒนาโครงการบนที่ดินของ รฟท. รวมทั้งการพัฒนาด้วยตนเอง การซื้อหรือเช่าที่ดินจากบุคคลภายนอกเพื่อพัฒนาหรือร่วมทุน หวังสร้างการเติบโตในระยะยาวให้แก่ รฟท. ซึ่งจะส่งผลให้ รฟท. มีรายได้จากการบริหารทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น 

มีระบบบริหารจัดการที่มีมาตรฐานสากล และมีทางเลือกในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนอื่นๆ ตลอดจนยังส่งผลดีต่อภาพรวมในอีกหลายมิติ ทั้งมิติทางเศรษฐกิจในการช่วยกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ การจ้างงานการท่องเที่ยว ด้านสังคมช่วยให้การบริหารพื้นที่ชุมชนที่บุกรุกสามารถดำเนินการให้มีประสิทธิภาพ ตลอดจนช่วยให้การบริหารจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมดีขึ้น

นายนิรุฒ กล่าวด้วยว่า คาดว่าภายหลังการส่งมอบการบริหารทรัพย์สินแล้ว บริษัท เอสอาร์ทีฯ ซึ่งถูกออกแบบมาให้เป็นอิสระและเป็นมืออาชีพด้านการจัดการอสังหาริมทรัพย์จะสามารถบริหารจัดการทรัพย์สินของ รฟท. ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อ รฟท. สามารถสร้างรายได้แก่องค์กร และเป็นฟันเฟืองสำคัญในการช่วยพลิกฟื้น รฟท.ให้กลับมาเป็นองค์กรที่มีความเข้มแข็ง สามารถดูแลและให้บริการแก่ประชาชนตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนยุทธศาสตร์กระทรวงคมนาคมได้อย่างยั่งยืน... อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/news/253640